จุดเริ่มต้นความเพี้ยนอันสุดโต่ง ถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรง คนเก่าแก่


จุดเริ่มต้นความเพี้ยนอันสุดโต่ง นายมโน
ถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรง คนเก่าแก่..
จะเล่าเรื่องนายมโน เนรคุโณ ให้ฟัง สำหรับท่านที่เพิ่งจะรู้จักเขา

แต่ก่อนเขาเป็นพระชื่อเมตตานันโท อยู่วัดพระธรรมกาย ก่อนมาบวชจบแพทย์จุฬา ผมรู้จักครั้งแรก ก็เห็นเขาบวชแล้ว ผมก็ประทับใจเขามาก คือรู้สึกทึ่งที่ขนาดจบหมอยังมาบวชตลอดชีวิต เรียกว่า เขาไปเทศน์ที่ไหน ผมจะต้องไปนั่งฟังเขาเทศน์ เพราะตอนนั้นผมกำลังสนใจในพระพุทธศาสนา อ่านหนังสือเยอะมาก พระรูปไหนดูมีความรู้ก็ชอบไปฟัง

แรกๆฟังก็สนุกดี เพราะสไตล์การเทศน์ของพระมโน คือเทศน์แบบเสียดสีคนอื่น พร้อมกับยกยอตัวเอง หัวเราะ หึๆ และทำปากเหยียดๆคนอื่น ผมยังจำหน้าตาเขาได้ดี เป็นพระที่กวนตีนดี แต่ตอนนั้นยังนับถืออยู่ ทำอะไรก็ดูน่ารักหมด

ตามไปฟังหลายที่ ก็ได้ความรู้มั่ง แต่ก็เริ่มพบความเพี้ยนและหลงตัวเองขนาดหนักของพระมโนเรื่อยๆ
ครั้งแรกฟังที่บ้านหนูแก้ว ตรงสี่พระยา ด่าวัดตัวเองว่า "บ้าบุญ" ผมก็คิดในใจ คนตั้งใจสั่งสมบุญ เรียกว่าบ้าบุญได้ไง พระพุทธเจ้า ก่อนจะตรัสรู้ธรรม ก็ต่างสร้างบุญกันอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันทั้งนั้น แล้วก็ถามพวกเราว่า ถ้าหมู่คณะกำลังจะเดินลงเหว เราจะทำอย่างไร พวกเราตอบว่า "ถ้าพวกเราเชื่อในตัวผู้นำ เราก็ต้องตามผู้นำ เพราะไม่งั้นก็ต้องไปเป็นผู้นำเสียเอง" พระมโนไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มแหยๆ

ถ้าเป็นสมัยนี้ จะย้อนถามพระมโนว่า ถ้ามาว่าญาติโยมบ้าบุญ แล้วเงินที่ญาติโยมส่งเสียให้ไปเรียนออกฟอร์ด ฮาร์วาร์ด เพื่อหวังจะได้เป็นกำลังแก่พระศาสนา คนที่กินใช้เงินญาติโยมแล้วไม่รู้คุณ นี่ยิ่งกว่าหมานะ ไม่ใช่แค่บ้า

แล้วเขาก็เล่าเรื่องที่เขาไปงานสัมมาพระพุทธศาสนาที่ไหนไม่ทราบ ซึ่งเขาชอบไปงานประเภทนี้ เขาก็เล่าว่า ที่ประชุมเชิญให้พระไทยจากที่ไหนไม่ทราบขึ้นพูด แต่ไม่เชิญเขาพูด ทั้งๆที่ภาษาอังกฤษเขาก็ดีกว่าพระรูปนั้นมาก แล้วก็ทำหน้าแบบเหยียดๆ
ครั้งที่สอง ฟังที่ สนง.กัลยาณมิตรโชคชัย 4 ก้็พูดกระแนะกระแหน วัดตัวเองอีกว่าที่พูดว่าเป็นเทวดามาจากสวรรค์ชั้นดุสิต เพื่อมากอบกู้พระศาสนา แบบหัวเราะขำๆว่าเชื่อไปได้ยังไง ผมก็คิดว่าไม่เห็นจะแปลก ก็ในพระไตรปิฎกก็มีเขียนไว้ว่าพระโพธิสัตว์ ส่วนใหญ่ ก็อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต หากพวกเราจะเป็นพระโพธิสัตว์ก็ไม่เห็นจะแปลก ขนาดฉันยังปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเลย

ครั้งที่สาม ฟังที่ดอยสุเทพ พวกเราตั้งใจไปนั่งสมาธิ แต่ถ้าพระมโนมาเป็นพระอาจารย์เมื่อไหร่ ไม่ได้นั่งหรอก เพราะแกไม่ชอบนั่ง ชอบโม้ให้ฟัง แกก็เล่าเรื่องพระเจ้าอโศก แกบอกว่า แกไม่เชื่อหรอกว่าพระเจ้าอโศกเป็นผู้อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา ที่ตำราบอกว่าพระเจ้าอโศก สั่งจับพระปลอมสึกเป็นจำนวนมาก แกว่าพระเจ้าอโศกต้องการกำจัดและควบคุมพระมากกว่า คงจะไม่ใช่พระปลอม เรียกว่าความคิดเขาเพี้ยนหลุดกรอบไปเยอะมาก

ครั้งสุดท้าย ที่ผมได้เจอแก คือหลังจากที่แกไปวุ่นวายกับกรณีฆ่าหมู่พระที่วัดพรหมคุณาราม รัฐอริโซ่น่า แกไม่เชื่อว่า นายโจนาธานดูดี้เป็นคนฆ่า ก็มาขอเงินจากวัดหลายสิบล้านเพื่อไปจ้างทนายมาสู้คดี แต่ทางวัดไม่ให้ เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ แกก็มาพูดกับพวกผม (นักศึกษา) ว่าวัดเหมือนทะเลคือ น้ำเยอะแต่เค็ม กินไม่ได้ จึงมาบอกบุญพวกเรา เปรียบว่าต้องมารวบรวมจากน้ำบ่อเล็กบ่อน้อย โดยขายหนังสือที่แกเขียนเกี่ยวกับคดีนี้ชื่อ "หยดเลือดบนจีวร" ขายเล่มละ 200 บาทมั๊ง ผมก็ช่วยซื้อไปไม่รู้กี่เล่ม

หลังจากนั้นไม่นาน แกก็ออกจากวัดไป และก็ได้ข่าวว่าไปอยู่วัดไหน ก็โดนไล่

จบเรื่องราวชีวิตของผม บางส่วนที่ได้เกี่ยวข้องกับนายมโน ภิกษุโมฆะบุรุษในศตวรรษนี้ เรื่องราวทั้งหมด เป็นเหตุการณ์ที่ผมไม่ได้นั่งฟังคนเดียว เพราะมีเพื่อนๆญาติโยมนั่งฟังอยู่ด้วยมากมาย บางคนอาจจะละโลกไปแล้ว บางคนอาจจะออกนอกวงโคจรไปแล้ว บางคนอาจจะลืมไปแล้ว แต่ผมยังไม่ลืม จึงเอามาถ่ายทอดเขียนเป็นประวัติศาสตร์ไว้ ที่เขียนเป็นความจริงทุกประการ

Cr:Somchet J.Mhin

เผยแล้ว..สาเหตุแท้จริงที่นายมโนออกจากวัดพระธรรมกาย


...เรื่องนายมโนตอนออกจากวัดพระธรรมกาย  เป็นที่หายไปจากสารบบคือ
      ทำไมถึงออกจากวัดพระธรรมกาย ในกลางพรรษาปี2537พระมโน (ในขณะนั้น) กำลังทำเรื่องนายรูดี้ที่ฆ่าพระในอเมริกา เรี่ยรายจากโยมหลายสิบล้าน เรื่องนี้มีคนพูดมากแล้ว ขอยกไว้ แต่จุดที่ออกจากวัดไม่เคยมีใครพูดถึงคือ พระมโน มาขอหลวงพ่อรองเจ้าอาวาสไปประชุมที่อียิปต์ ในรายการที่ไม่เกี่ยวอะไรกับการเผยแผ่พุทธศาสนาจากกำหนดการจะต้องขาดพรรษา. อย่างที่ทราบกันพระมโนตั้งแต่วันบวช ก็ร่อนเร่ไปอยู่ต่างประเทศ ไม่คุ้นกับการทำตามวินัย จำพรรษา ซึ่งครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่พระมโนจำพรรษาที่วัดพระธรรมกาย หลังจากบวชแล้ว 13 ปี หลวงพ่อรองเจ้าอาวาสไม่อนุญาตเพราะไม่เอื้อพระวินัย ด้วยความดื้อรั้นเอาแต่ใจก็สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้ครูบาอาจารย์ จะไปให้ได้ ที่สุดพระมโนได้ยื่นคำขาดว่า

"ถ้าหลวงพ่อไม่ให้ไป ผมก็จะขอลาออกจากวัด !!"

หลวงพ่อรองเจ้าอาวาสจึงให้กลับไปคิดให้ดีหนึ่งคืน .

....พระมโนคงคิดด้วยความคิดเอาตนเป็นใหญ่ มองไม่เห็นสิ่งที่หลวงพ่อเตือนให้เอื้อเฟื้อกับพระวินัยตั้งใจจะแหกพรรษาไปเช้ารุ่งขึ้นจึงเอาจดหมายลาออกมายื่น.
หลวงพ่อรองเจ้าอาวาส

.....หลวงพ่อรองเจ้าอาวาสได้รับหน้าที่ปกครองพระสงฆ์. ในปีนั้นมีประมาณ 700 รูป มีกฏระเบียบ สำหรับคนหมู่ใหญ่. จึงสุดที่จะทัดทาน หลวงพ่อรองเจ้าอาวาสจึงจำใจรับการลาออกนั้น

...พระมโนเมื่อออกไปแล้ว เมื่อต้องอยู่เอง กินเอง ไปได้ไม่นาน ไม่ถึงปลายปี ไปขอให้เจ้าภาพใหญ่ระดับคุณหญิงท่านหนึ่งมาขอให้หลวงพ่อรับกลับ

ตอนที่พระมโนกลับมา ขอเข้าวัดนั้น หลวงพ่อรองเจ้าอาวาส ยังให้โอกาส ให้พระมโนไปขอขมา ต่อสงฆ์ ที่ในโบสถ์วันอุโบสถ พระมโนนั้นด้วยทิฐิมานะที่ตัวถือดี มีดีกรีนักเรียนนอก ไม่ยอมลดตัว ลดทิฐิ ความถือดี จึงสละโอกาสนั้น แล้วแยกไปตามทางของตนเองก็คงเก็บไปแค้นเหมือนเดิม คิดว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาสแกล้งตนให้เสียหน้า เลยอาฆาตมาดร้าย เนรคุณ ทั้งๆที่ ท่านมีแต่ความหวังดี อยากให้ลดมานะ ความถือตัว ทิฐิความเห็นผิดๆนั้นไปให้หมด เรื่องก็เป็นอย่างนี้
พระมโนจึงสิ้นสุดความเป็นพระวัดพระธรรมกายด้วยประการฉะนี้

อย่ามาตีเนียนว่าเห็นความไม่ชอบมาพากลของหลวงพ่อจึงทำตัวเป็นฮีโร่ ออกมาต่อต้าน แม้เนรคุณ ฟังแล้วเสียดายอาหารที่ทานเข้าไป.

พอเถอะนายมโน คุณจะเคียดแค้น อาฆาต จองเวร
หลวงพ่อไปทำไม พยายามอย่างยิ่งที่จะได้คำว่า .

" ศิษย์เนรคุณ คิดล้างครู" ทำไม ?

    ...เครติด. ศิษย์วัดใหญ่  ภายในสุดๆ กว่า 30 ปี

คนครึ่งบ้า



@ นายมโน...คนครึ่งบ้า @

           ได้อ่านบทความที่นายมโน เลาหวนิช เขียนใส่ร้ายป้ายสีหลวงพ่อธัมมชโยด้วยความรู้สึกอเนจอนาถใจ หลวงพ่อเป็นผู้มีพระคุณส่งเสียนายมโนเล่าเรียนในต่างประเทศจนจบ ให้ความเมตตาสนับสนุนในเรื่องต่างๆ มากมาย ทำไมนายมโนจึงมีพฤติกรรม...เนรคุณ...เช่นนี้__วิเคราะห์ทางการแพทย์ด้านจิตเวช เป็นไปได้ที่สาเหตุเกิด เพราะนายมโนเป็นผู้มีอาการทางจิต*** เนื่องจากคุณพ่อของนายมโน ซึ่งเป็นหมอจุฬารุ่น1 ก็ป่วยเป็นโรคจิต คุณแม่ก็ป่วยเป็นโรคจิต พี่น้องทุกคนก็ป่วยเป็นโรคจิต นายมโนต้องฝึกยูโดตั้งแต่เรียนมัธยมเพื่อเอาไว้สู้คุณพ่อ ล็อคคอแย่งปืน ทำให้มีอาการฝังจิต เมื่อใกล้ชิดผู้ใหญ่ท่านใดก็จะมีความรู้สึกเป็นศัตรูที่ต้องจ้องทำลายแฝงอยู่ในใจด้วย เหมือนที่ตนต้องคอยระวังต่อสู้ทำลายพ่อของตัวเอง

             เมื่อเข้าใจสาเหตุทางจิตของนายมโนแล้ว ก็จะทำให้เข้าใจพฤติกรรมเนรคุณของนายมโนได้ดี เมื่อออกจากวัดพระธรรมกายก็ไปอาศัยอยู่วัดราชโอรสฯ ต่อมาก็สร้างเรื่องมากมายจนท่านเจ้าอาวาสวัดราชโอรสให้ออกจากวัด ก็เที่ยวด่าโจมตีท่านไปทั่ว เจ้าอาวาสวัดนาคปรกสงสารให้ไปอยู่ด้วย ก็ก่อเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับพระในวัดไปทั่ว ไม่ลงสวดมนต์ทำวัตร ไม่ลงฟังปาติโมกข์ จนท่านขับออกจากวัด ก็เที่ยวด่าว่าท่านเจ้าอาวาสวัดนาคปรก จนไม่มีวัดไหนกล้ารับไปอยู่ด้วย เพราะขยาดพฤติกรรมเนรคุณ จึงไปอยู่อพาร์ตเมนต์เป็นปีก่อนจะสึกออกไป

           สึกแล้วไปสมัครงานอยู่สถาบันปรีดี พนมยงค์ ที่ ม.ธรรมศาสตร์ อาศัยชื่อสถาบันเป็นเครดิต แต่ก็ไปทะเลาะกับเขาอีก จนทางสถาบันให้ออก>> หนทางสร้างชื่อของนายมโน มีทางเดียวคือการตามด่าวัดพระธรรมกายและหลวงพ่อธัมมชโย...ผู้มีพระคุณพฤติกรรมเนรคุณของนายมโน ผู้ป่วยทางจิต เราควรให้อภัยไม่ถือสา เพราะโบราณว่า “อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา” แต่จะทำอย่างไรดีกับคนครึ่งบ้าที่อาละวาด สร้างความวุ่นวายเข้าใจผิดให้กับคนทั้งบ้านทั้งเมือง เร็วๆ นี้ก็ไปสร้างเรื่องวุ่นวายที่โรงพยาบาลกรุงเทพอีก ตัวเป็นคนไข้ แล้วนัดทีวีไปสัมภาษณ์ที่โรงพยาบาลเขาโดยไม่ขออนุญาต ไปนั่งเก้าอี้หมอของโรงพยาบาลหน้าตาเฉย ผู้บริหารโรงพยาบาลทราบก็มาห้าม เป็นเรื่องวุ่นวาย คนๆ นี้เข้าที่ไหน มีเรื่องวุ่นวายที่นั่น ถ้าสังคมไทยรับรู้ว่าเป็นคนครึ่งบ้าที่เรียนหนังสือมาเยอะ ก็จะไม่ถูกคนบ้าหลอก

         อยากให้นักข่าวทีวีสัมภาษณ์ถามนายมโนว่า...>> คุณพ่อของนายมโนเป็นบ้าจริงหรือเปล่า คุณแม่และพี่น้องทุกคนก็ป่วยเป็นโรคจิตจริงไหม ? >> นายมโนต้องฝึกยูโด เอาไว้ล็อคคอแย่งปืนพ่อที่จะยิง...จริงไหม ? >> ไปอยู่ที่ไหนก็ก่อเรื่องจนถูกเขาไล่ออกมาทุกที่...จริงไหม ? >>อ้างว่าตนเป็นบุคคลสำคัญของวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่บวชพระมาจนสึกรวม 20 กว่าปี นายมโนไม่เคยอยู่จำพรรษาที่วัดพระธรรมกายเลยแม้แต่พรรษาเดียว !!!...จริงไหม ?  >>  เมื่อออกจากวัดพระธรรมกายไปด้วยความอวดดื้อถือดี เสร็จแล้วซมซานจะขอกลับมาอยู่วัดพระธรรมกายอีก...จริงไหม ?เมื่อทางวัดไม่รับเพราะเข็ดขยาดในพฤติกรรม จึงผูกอาฆาตต้องการทำลายวัดพระธรรมกาย




              

นายมโน...คนครึ่งบ้า ......

กำลังสร้างเรื่องหลอกคนทั้งประเทศว่า   หลวงพ่อธัมมชโยตั้งใจจะครองโลกเหมือนฮิตเลอร์

           อพิโธ่..หลวงพ่อธัมมชโยท่านบวชมา 46 พรรษาแล้ว ตอนนี้อายุ 70 ปีเศษ จะไปครองโลกตอนไหน มีแต่สร้างวัด สร้างพระ เผยแผ่ธรรมะ เพราะอีกไม่กี่ปีก็ต้องตายจากกันไปแล้วสร้างศาสนสถานรองรับชาวพุทธเป็นล้านคน แต่ตัวหลวงพ่อธัมมชโยท่านยังอยู่กุฏิที่เป็นอาคารชั่วคราว ผนังเซลโลกรีต พื้นปูไม้อัดอยู่เลย ชีวิตส่วนตัวท่านอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ชอบพิธีรีตอง แต่งานพระพุทธศาสนาเป็นทางการ ท่านบอกว่า ต้องทำให้ดีที่สุดเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะแสดงถึงความเคารพบูชาพระรัตนตรัย พระภิกษุวัดพระธรรมกายมีกว่า 3,000 รูป อุบาสก อุบาสิกาที่จบปริญญาตรีขึ้นไป แล้วรักษาศีล 8 ตั้งใจอยู่ช่วยงานวัดตลอดชีวิต มีกว่าพันคน ญาติโยมสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาหลายล้านคน ไม่ใช่คนโง่ มีการศึกษาสูง มีฐานะการงานดี เป็นคนฉลาด ถ้าหลวงพ่อไม่ดีจริงเขาไม่สละชีวิตมาช่วยงานวัดอย่างนี้หรอก 

           ไม้ใหญ่ก็ต้องลมแรง เป็นธรรมดามีผู้ใส่ร้ายป้ายสีรุมกระหน่ำโจมตีมากมาย ลูกศิษย์วัดไม่ได้หูหนวกตาบอด แต่ที่ศรัทธามั่นไม่หวั่นไหว เพราะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ศีลรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วม” คือ คนอยู่ด้วยกันเป็นสิบๆปี จะรู้นิสัยพฤติกรรมของกันและกัน ปิดไม่มิดหรอก ศิษย์วัดทุกคนรู้ความจริงว่าข้อกล่าวหาโจมตีทั้งหลายนั้นไม่จริง เขาจึงไม่หวั่นไหว ทองคำแท้ไม่กลัวไฟ เหมือนวัดพระธรรมกายที่สร้างมาแล้ว 45 ปี ผลงานที่ทำพิสูจน์ความจริงได้ดีกว่าคำพูด (โปรดดูภาพและรายละเอียดจากเพจพุทธสามัคคี)หวังว่าสังคมไทยจะตาสว่าง ไม่ถูกนายมโน...คนครึ่งบ้า หลอกลวงต่อไป “ถูกคนบ้าหลอกจนหลงเชื่อ เป็นเรื่องตลกที่น่าอาย”

เผย..เทคนิคกลลวงของนาย มโน รู้แล้วถึงกับ..อึ่ง!!



คุณอัยย์...
พูดได้ "เจ็บ" สุด ๆ
ความลับของ นายมโน  ที่คนทั่วไปยังไม่ทราบ
..................................
                 นายมโน คนนี้เป็นคนพูดเก่ง ลีลาการพูดไม่ธรรมดา สามารถพูดขาวให้เป็นดำ หรือพูดดำให้เป็นขาวได้อย่างสบายๆ ถ้าสังเกตุดู สิ่งที่แกพูดกล่าวหาวัดพระธรรมกายต่างๆนั้น ไม่มีหลักฐานที่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง มีเพียงความที่เคยเป็นพระวัดพระธรรมกายมาก่อนเท่านั้น ทำให้คนที่ไม่ทราบเบื้องหลังแห่งความเนรคุณและพฤติกรรมสุดแสบของนายคนนี้ พอฟังแล้วก็จะให้ความเชื่อถือ 

                 ถ้าไปถามคนวัดพระธรรมกายรุ่นเก่าๆ ทั้งหลาย จะสามารถบรรยายความเลวของบุคคลผุ้นี้ได้มากมาย หรือจะไปลองสอบถามเจ้าอาวาสวัดวัดนาคปรก และ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม องค์ปัจจุบันทั้งสองดูก็ได้ว่า เจ้าหมอนี่เลวระยำแค่ไหน เพราะหลังจากโดนไล่ออกจากวัดพระธรรมกายแล้ว ได้ไปขออาศัยอยู่วัดราชโอรสาราม ก็ไปสร้างความปั่นป่วน วุ่นวายในวัด จนถูกขับไล่ออกจากวัด เพราะไปโจมตีเจ้าอาวาสสำแดงสันดานเนรคุณออกมาอีก...

              หลังจากนั้นก็ไปขออาศัยอยู่ที่วัดนาคปรกอีก ก็มีพฤติกรรมสุดแสบเหมือนเดิม ก็ถูกไล่ออกจากวัดนาคปรกอีก หาวัดอยู่ไม่ได้ ไม่มีวัดไหนกล้ารับไว้ เพราะวัดต่างๆทราบถึงพฤติกรรมเป็นอย่างดี ในที่สุดก็ต้องลาสิกขา ออกมาเล่นการเมืองแต่ก็ไปไม่รอด  หนทางเดียวที่จะสร้างชื่อให้นายมโนได้ คือตามด่าวัดพระธรรมกาย  เพราะรู้ว่าถึงจะด่ายังไงหลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านก็ไม่เอาเรื่องเอาราว  ช่วงหลังจึงมายึดอาชีพรับจ้างโจมตีวัดพระธรรมกาย และคณะสงฆ์ เนื่องจากมีนิสัยหลงตัวเองอย่างมาก ชอบโอ้อวด คิดว่าตนเองฉลาดเหนือกว่ามนุษย์ทั้งหลาย มีอีโก้แบบสุดโต่ง มักชอบดูถูกผู้อื่น เป็นคนเจ้าเล่ห์ เพราะความที่เรียนเก่ง ได้ทุนเรียนจบหมอเป็นนายแพทย์ และเรียนจบจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ต ประเทศอังกฤษ แถมยังเรียนจบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศอเมริกาอีกด้วย แต่สิ่งที่นายคนนี้ไม่เคยบอกให้ใครทราบเลย ก็คือ หลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นี่แหละ ที่เป็นผู้ช่วยใช้ทุนให้เพื่อจะไม่ต้องไปทำงานใช้ทุนหลวง ทำให้ได้มีโอกาสเข้ามาบวชพระที่วัดพระธรรมกาย ......



               นอกจากนั้น ท่านยังส่งเสียให้เรียนจนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของโลกทั้ง 2 แห่ง จนได้เป็นด๊อกเตอร์ ช่วงที่นายคนนี้จะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ต ประเทศอังกฤษ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายถึงขนาดไปส่งถึงประเทศอังกฤษ เพราะท่านให้ความรักความเมตตาเอ็นดูเสมือนลูกชายคนหนึ่งของท่าน แต่สิ่งที่นายคนนี้ตอบแทนกับครูบาอาจารย์ผุ้มีพระคุณนั้น คงไม่มีมนุษย์คนใดจะสามารถทำได้เท่าแล้ว การใช้คำว่าเนรคุณสักล้านครั้งกับบุคคลผู้นี้ ก็ยังไม่เพียงพอ การกระทำของบุคคลผู้นี้น่าจะเปรียบได้กับพระเทวทัตในครั้งพุทธกาล เป็นบุคคลอันตรายอย่างยิ่ง ....

               ใครก็ตามที่กำลังคบหาหรือเอามาใช้งานหรือร่วมทำกิจกรรมใดๆกับจอมลวงโลกคนนี้ ขอเตือนให้ระวังเป็นพิเศษ ประดุจกำลังเกี่ยวข้องกับอสรพิษที่มีพิษร้ายแรง หากวันหนึ่งปราศจากผลประโยชน์ที่ตนจะได้แล้ว จะสามารถสร้างความเสื่อมเสียหายอย่างมหันต์หรือเนรคุณกับผู้มีอุปการะคุณทุกๆคนได้ทันที โดยไม่เกรงกลัวต่อบาปบุญคุณโทษใดๆ ไม่เคยเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ มีความคิดเห็นที่ผิดเพี้ยนรุนแรงกว่าบุคคลทั่วๆไป จัดเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิสุดโต่ง ถ้าเป็นในสมัยพุทธกาลนายคนนี้น่าจะถูกแผ่นดินสูบไปนานแล้ว ยังไงก็ตามด้วยกรรมที่ก่อไว้มากมายนี้ ตายไปก็คงมีเพียงสถานที่เดียวที่จะรองรับนายคนนี้ ได้ นั่นคือ  โลกันตมหานรกเท่านั้น
.......................

ฝากไว้ว่า.. ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี...คนดีต้องมีความกตัญญู
  ความอกตัญญูเป็นเครื่องหมายของของคนเลว...คนเลวมักมีนิสัยเนรคุณ


                         อึดอัดจากรายการต่างคนต่างคิด ความจริงที่รายการออกไม่หมด


.......................................
.......................................